ภาษาและวัฒนธรรมของอำเภอชัยบาดาล
ภาษาถิ่น ประชาชนในอำเภอชัยบาดาลส่วนใหญ่จะย้ายจากจังหวัดอื่น
ๆ เข้าประกอบอาชีพในอำเภอชัยบาดาล เช่น มาจากกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้รับผลกระทบจากการยกเลิกรถสามล้อถีบ
และทางรัฐบาลจัดสรรที่ทำกินให้ในเขตนิคมสหกรณ์ ตำบลท่าดินดำ
มาจาก[จังหวัดนครสวรรค์ตั้งถิ่นฐานอยู่ตำบลซับตะเคียน
มาจากจังหวัดนครนายกตั้งถิ่นฐานอยู่ตำบลลำนารายณ์
มาจากจังหวัดนครราชสีมาตั้งถิ่นฐานอยู่ตำบลบัวชุม ตำบลหนองยายโต๊ะ และตำบลท่าดินดำ
ทั้งสามตำบลจะมีประชากรร่วมกันเกินกึ่งหนึ่งของอำเภอชัยบาดาล
จึงทำให้อำเภอชัยบาดาลมีภาษาท้องถิ่นเป็นภาษาไทยโคราช (ไทยเบิ้ง)
และภาษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาษาไทยเบิ้งจะมีลักษณะคล้ายภาษาไทยกลาง
มีหน่วยเสียงพยัญชนะ 21 เสียง
หน่วยเสียงสระ 21 หน่วยเสียง และหน่วยเสียงวรรณยุกต์ 5
หน่วยเสียง สันนิษฐานว่าภาษาไทยเบิ้งคือภาษาไทยโคราช คไว่า เบิ้ง
เป็นคำที่ชาวอีสานกลุ่มอื่น เช่น ลาว เขมร ใช้เรียกชาวไทยโคราช
เมื่อชาวไทยโคราชอพยพมาอยู่ถิ่นอื่นยังคงใช้ภาษาไทยโคราชและเรียกกลุ่มของตนว่าไทยเบิ้ง
ภาษาที่ใช้จึงเรียกว่าภาษาไทยเบิ้ง ที่สำคัญคือมีเสียงลงท้ายประโยคโดยเฉพาะได้แก่
ด๊อก (ดอก) แหล่ว (แล้ว) เบิ้ง (บ้าง) เหว่ย (หว่า)
การละเล่น
รำโทน ที่ ตำบลบัวชุมและตำบลหนองยายโต๊ะ
รำโทนเป็นการแสดงพื้นบ้านที่นิยมเล่นกันทั่วประเทศไทย ในสมัยที่จอมพล ป.
พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี
รำโทนได้รับการเชิดชูให้เป็นศิลปะประจำชาติอย่างหนึ่งในสมัยนั้น
ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่ารำโทนเกิดขึ้นเมื่อใด ใครเป็นผู้ริเริ่ม
แต่ผู้ที่นิยมเล่นรำโทนคือหนุ่มสาวชาวบ้าน กล่าวกันว่าในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ผู้คนคอยแต่จะอพยพหนีภัยกัน
ในยามค่ำคืนจะมืดไปทั่วทุกหนแห่งเนื่องจากรัฐบาลห้ามจุดไฟ ห้ามชุมนุม
ประชาชนเกิดความเหงาจึงได้คิดเล่นรำโทนขึ้น วิธีเล่นคือจุดตะเกียงไว้ตรงกลางลาน
ผู้แสดงยืนล้อมวงร้องเพลงเกี้ยวพาราสีกันด้วยจังหวะท่วงทำนองที่สั้นๆ ง่าย ๆ
ร้องซ้ำ ๆ กันหลายเที่ยว
ประเพณี
ประเพณีการเลี้ยงเจ้าบ้าน เป็นประเพณีที่ชาวบ้านในอำเภอชัยบาดาลได้กระทำติดต่อกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ
เชื่อกันว่าเมื่อได้กระทำพิธีนี้แล้วจะทำให้ครอบครัวได้รับความร่มเย็นเป็นสุข
ประเพณีนี้จัดทำในวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 6 ชาวบ้านจะไปพร้อมกันที่ศาลเจ้าประจำหมู่บ้านในเวลา 08.00-09.00 น. ใครไปก่อนก็เลี้ยงก่อน ไม่ต้องรอกัน โดยจะต้องเตรียมสิ่งของต่าง ๆ
ได้แก่ ข้าวดำ ข้าวแดง (ใช้ข้าวสุกย้อมสีดำ สีแดง) รูปสัตว์ รูปคน
(ใช้ดินหรือแป้งปั้นให้เท่ากับจำนวนคนในบ้าน และรูปสัตว์ใช้เฉพาะสัตว์สี่เท้า)
ข้าวสาร พริกเม็ด เกลือก้อน เงิน 12 ทอง 15 (ใช้เป็นแป้งปั้นเป็นรูปสตางค์) ธูป เทียน เหล้า บุหรี่
ด้ายสายสิญจน์สำหรับผูกข้อมือ ถาด กระด้ง หรือเข่งปลาทู
เมื่อถึงวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 6 ทุกคนจะนำสิ่งของต่าง ๆ ดังกล่าวใส่ถาด กระด้ง เข่งปลาทู หรือภาชนะอื่น ๆ
ก็ได้ ไปที่ศาลเจ้า จุดธูปเทียนบอกเล่าให้มารับสิ่งของที่ตนเตรียมไป จุดบุหรี่
แล้วเทเหล้าใส่ในโอ่งที่มีอยู่ในศาล เสร็จแล้วก็ขอศีลขอพร
เวลากลับให้ขอด้ายสายสิญจน์จากท่าน (สายสิญจน์เตรียมไปนั่นเอง)
เพื่อนำไปผูกข้อมือลูกหลาน ก่อนกลับใช้มีดขีดเส้นข้างหน้าระหว่างตัวเองกับศาล
เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า ให้ต่างคนต่างอยู่ไม่ให้รบกวนกัน
ส่วนใหญ่ผู้ที่ไปทำพิธีเลี้ยงเจ้าบ้านมักเป็นแม่บ้านหรือผู้หญิงที่มีอายุ
ประเพณีสงกรานต์ วันที่ 13 เมษายน เป็นวันสงกรานต์และวันขึ้นปีใหม่ของไทย ชาวไทยจะทำบุญตักบาตร
สรงน้ำพระ รดน้ำอวยพรผู้ใหญ่เพื่อความเป็นสิริมงคล
เนื่องจากเดือนเมษายนเป็นช่วงฤดูร้อน น้ำในคลอง ห้วย หนอง แห้งแล้ง
ทำให้ปลาที่อาศัยอยู่ในบริเวณดังกล่าวเดือดร้อน
ดังนั้นวันสงกรานต์จึงนิยมปล่อยปลาลงในแม่น้ำลำคลอง
ประเพณีของอำเภอชัยบาดาล มีจัดกันทั่วไปตามหมู่บ้านต่าง
ๆ ลักษณะของงานนอกจากจะเป็นงานบุญแล้ว ยังเป็นงานที่คนหนุ่มคนสาวได้สนุกสนานเพราะมีการฟื้นฟู
นำการละเล่นพื้นบ้านมาเล่น เช่น ชักเย่อ ลูกช่วง ฯลฯ
การจัดงานที่หน้าที่ว่าการอำเภอชัยบาดาล เทศบาลตำบลลำนารายณ์ร่วมกับอำเภอและสภาวัฒนธรรมอำเภอ
จัดงานสงกรานต์ขึ้นเป็นประจำทุกปี งานเริ่มตั้งแต่ตอนเช้าทำบุญตักบาตรข้าวสาร
อาหารแห้ง ภาคบ่ายขบวนแห่นางสงกรานต์ของหน่วยงานและตำบลต่าง ๆ
ประกวดนางสงกรานต์แต่งกายงามแบบไทย สรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวขอพรผู้อาวุโส
และการแสดงดนตรี
ประเพณีแห่เจ้าพ่อเจ้าแม่
(ปุนเท่าก๊ง ปุนเท่าม้า) ของคนไทยเชื้อสายจีนในเขตเทศบาลตำบลลำนารายณ์ เป็นงานประจำปีที่จะจัดขึ้นหลังจากวันตรุษจีนผ่านไปแล้ว
5 วันและจะมีขบวนแห่เจ้าพ่อเจ้าแม่ในวันที่
6 หลังจากวันตรุษจีน
ซึ่งจะตรงกับประมาณปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น